สิ่งเราเรียนรู้และจะไม่ทำอีกในการเทรดครั้งต่อไป
1. ฟังคนอื่น เชื่อคนอื่น ไม่เชื่อกราฟ
2. รับหุ้นหรือ S50 ที่ลงมาเร็ว โดยใช้กลยุทธ์ Mean Revertion เราเลิกใช้ เพราะมันมีความถูกต้องต่ำ
3. ไม่ทำตามระบบ
4. Over trade มันทำให้ Port เหวี่ยง เราต้องไปเรื่อยๆรอโอกาส
5. ดูและปล่อยวางเรื่องปัจจัยแวดล้อม ดาวขึ้นลง ค่าเงินแข็งอ่อน ต่างประเทศบวกลบ ดูกราฟว่ามีอาการอย่างไรเท่านั้น
6. ไม่ซื้อตามปัจจัยพื้นฐาน เพราะพื้นฐานช่วยให้เราเลือกหุ้นได้ถูกกลุ่ม มีปัจจัยเร่ง แต่ไม่ใช่จังหวะซื้อ
สิ่งที่ต้องทำ
- วิเคราะห์ลักษณะของราคาในปัจจุบัน เพื่อที่จะกำหนดกลยุทธ์ว่าจะใช้แบบไหน Swing หรือ Trend
- ทำตามที่วิเคราะห์ไว้ และ Stop ทุกครั้ง
- ใช้ MM ที่กำหนดไว้
ข้อดี
- วิเคราะห์ Trend วิเคราะห์คลื่น มีสัญญาณผ่านรอบเข้าตามดาว ได้ผล
ข้อเสีย
- ไปเอาปัจจัยข่าวเข้ามาประกอบการลงทุน เช่นข่าวการเมือง มันมีเรื่องม๊อบปิดกรุงเทพ หุ้นขึ้น ทำให้ผิดแผน กดดันระบบ ทำไม่ได้ตามระบบ
- ขายดักโดยที่ไม่มีสัญญาณ
- ขายเพราะกลัวเพราะข่าว set น่าจะลง เราไปมโนคิดเอาเองทั้งนั้น
- ดักซื้อหุ้นลงในขาลง หรือเปิดกระโดดลง มันกระโดดคือมีแรงขาย อย่าไปคิดเยอะ อย่าไปสับสน มีแท่งขายคือขายและหลุดเทรนก็คือขาลง S ได้เปรียบ ส่วนเรื่องจะสร้างกรอบหรือไม่คือ S แล้วมันไม่ลงนั่นแหละคือเจอ Sideway
- เราจะไม่คาดเดาว่าจะเป็นเด้งเท่านั้นเท่านี้ มีหน้าที่คือเฝ้าดูอาการของมันและทำตาม เห็นแนวต้านก็ผ่านได้ แนวรับก็หลุดได้ Diver ก็ลงต่อได้
- ไม่คาดหวังผลตอบแทน เอาให้เต็มที่ตามศักยภาพของระบบ
- ไม่สังเกตุพฤติกรรมราคา ว่้าทำอะไร ชอบไปคาดว่ามันทำอะไร
- เราวัดเป้าหมายหุ้นไม่ดูอาการหุ้น ไปขายออกเป้า ก็หมูตลอด
- เดาเหตุการณ์แล้วไปกำหนดแผน และทำตามอีก มันเลยผิดพลาด เช่นมองจะลด port ตั้งแต่เมื่อวานที่มีดาวขาย ต้องดูหุ้นรายตัวด้วย (และก็ควรลดตัวที่มีสัญญาณขายไปแล้วด้วย ไม่ใช่มาลดวันรุ่งขึ้น)
- ขายเร็วเกินไป เมื่อกำไรแล้วควรวัดเป้าดูอาการก่อน ถ้ามันจะโดนก็ให้มันโดน
- ตกรถแล้วไปเล่นสวนใน TF5 ทำแบบนี้ไม่ได้นะไปดัก
สิ่งที่เราจะทำการในการเทรดครั้งต่อไป
- เริ่มจาก TF ใหญ่ วิเคราะห์ Trend จากรอบ วิเคราะห์ Wave
- ดู MACD ขาขึ้นหรือลง
- กำหนดแผนการเทรดจากพฤติกรรมราคา
- จากขาลงมาเป็นขาขึ้นมีสัญญาณก็เล่น ต้องวัดเป้าเพื่อดูพฤติกรรมราคาตรงเป้า (มันยังไม่มีการผ่านรอบ)
- เราต้องไวกว่านี้ สมาธิจดจ่อมากว่านี้ ตัดสินใจได้รวดเร็วกว่านี้
- สัญญาณปิดมาแล้ว ต้องประเมินทันทีว่าเปิดฝั่งตรงกันข้ามหรือไม่
- เราต้องดู Trend ประกอบด้วยเสมอ และEV ก็มีโอกาสผิด ดาวก็ผิดได้ ต้องดูรอบแบบราคา
การกำหนดกลยุทธ์ SWING TRADE
- เมื่อเห็นกรอบชัดเจน เช่นพักลงมา ABC ก็มีกรอบกลาง B กรอบบน A เฝ้าดูว่าราคาจะมีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่อถึงแนวพวกนี้
- ใช้ TF5 โดยใช้ Candle + Vol + BB
- Candle ตรงกรอบใช้ได้ผล
- เราออกเป้าเพราะคิดว่าไม่ไปแรง เดี๋ยวก็ลงมา เราคิดอย่างนั้นเพราะเราเห็นกรอบราคา ราคาแกว่งตัวในกรอบ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เห็นกรอบก็ยังไม่ต้องตั้งเป้าราคา เพราะมันจะไปเท่าไหร่ก็ได้ที่มันยังมีแรงซื้ออยู่
- การเล่นเด้งขาแรก เมื่อ Rsi ถึง70 เราต้องดูเก็บกำไร เพราะมันอาจลงมาทำรอบ (ในกรณีนี้มันยังไม่ทำ DownTrendline ที่กดลงมาให้เบรกผ่านเลย เล่นแบบนี้คือสวน Trend กำไรต้องเก็บเข้ากระเป๋า ไม่เอากลับบ้านจบในวันให้ได้
การเกิดสัญญาณดาวขาย ที่เราจะไม่ขายหมูคือ การดูคลื่นว่าความเป็นไปได้ตรงนี้จะเปลี่ยนทิศหรือยัง พร้อมดูกำลังมีลักษณะอย่างไรด้วย เพื่อที่จะไม่ขายหมู ประกอบดู MV สรุปได้ว่าต้องดู
การวัดเป้าแล้วมีอาการ
- มีกรอบราคาไหม ต้องใช้ Swing หรือเปล่า
- กำลัง RSI Diver ไหม
- อยู่ตรงไหนของคลื่น และมีโอกาสจบแล้วเปลี่ยนทิศไหม
- Mv ยังเรียงขึ้นไหม
การวัดเป้าแล้วมีอาการ
นี่ถ้าเราแก้ปัญหาของตัวเราที่เกิดขึ้นได้จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
กลัวไม่กล้าเข้า
กลัวจนขายเร็ว
แก้โดย พิจารณาที่การวิเคราะห์เพื่อประเมินความน่าจะเป็นออกมา แล้วเราก็เข้า
ขายเร็ว แก้โดยอย่าขายเร็ว ให้เห็นเทรนจะเปลี่ยน คลื่นครบ มีดาวขายชัดๆ ก็ขาย
มีสัญญาญขายดาวต้องดูกรอบให้ชัดมันแค่พักหรือเปล่า หรือกลับตัวเลยขอชัดๆ
ดูพฤติกรรม ใช่ก็มีเรา ไม่ใช่หมอบ ไม่สนอะไรทั้งนั้น ว่าเราจะคาดการณ์ถูกหรือผิด
ดูพฤติกรรม ใช่ก็มีเรา ไม่ใช่หมอบ ไม่สนอะไรทั้งนั้น ว่าเราจะคาดการณ์ถูกหรือผิด
การเทรดหน้าเดียวกับ Trend ไม่สลับไปมาให้ผลตอบแทนที่ดีมากวิธีคือ
เทรนขาขึ้น เชื่อสัญญาณจิ้มเขียว และเมื่อเกิดสัญญาณจิ้มแดงจะเชื่อเมื่อ ครบคลื่น หรือหลุด Trend
เราไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นอย่างไร เราต้องมีการดึงเงินออกมา เพื่อบริหารเงินสดอีกที ต้องทำห้ามยกเลิกเด็ดขาด
ความรู้สึก IN THE ZONE
เราจิตนิ่งลง เพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้หรือเสียเท่าไร มันเป็นแค่ตัวเลข เราตัดออกจากใจเรา
เราดู Trend TF ใหญ่ ว่ามีทิศทางไหน แล้วเล่นไปตาม Trend นั้น ไม่มีสลับสวนไปมา
สัญญาณที่ตรงกับ Trend จะมีโอกาสถูกมากกว่า
ถ้าเป็น Trend เราก็ปล่อยไปตามทิศทางนั้น มีสัญญาณเขียวสวนก็ยังไม่ L รอสัญญาณที่ชัด
เมื่อพลาดหลายครั้งก็ทำตามกราฟต่อ ไม่สนใจ เพราะเราวาง MM ดีแล้ว
การจัดการกับช่วง Sideway
เทรนขาขึ้น เชื่อสัญญาณจิ้มเขียว และเมื่อเกิดสัญญาณจิ้มแดงจะเชื่อเมื่อ ครบคลื่น หรือหลุด Trend
เราไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นอย่างไร เราต้องมีการดึงเงินออกมา เพื่อบริหารเงินสดอีกที ต้องทำห้ามยกเลิกเด็ดขาด
ความรู้สึก IN THE ZONE
เราจิตนิ่งลง เพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้หรือเสียเท่าไร มันเป็นแค่ตัวเลข เราตัดออกจากใจเรา
เราดู Trend TF ใหญ่ ว่ามีทิศทางไหน แล้วเล่นไปตาม Trend นั้น ไม่มีสลับสวนไปมา
สัญญาณที่ตรงกับ Trend จะมีโอกาสถูกมากกว่า
ถ้าเป็น Trend เราก็ปล่อยไปตามทิศทางนั้น มีสัญญาณเขียวสวนก็ยังไม่ L รอสัญญาณที่ชัด
เมื่อพลาดหลายครั้งก็ทำตามกราฟต่อ ไม่สนใจ เพราะเราวาง MM ดีแล้ว
การจัดการกับช่วง Sideway
- อย่าไปคิดเอาเองว่าจะเกิด Sideway แต่ให้สังเกตุพฤติกรรมราคา
- กรณีขาขึ้น หลังจากการพักตัวในขาขึ้น มีสัญญาณซื้อ พอมีการขึ้นไปแล้ว เราต้องดูแนวต้านใกล้ 2 High เดิม ว่าราคามีอาการยังไง ชนแล้วมีแรงขาย กลยุทธ์ต้องเปลี่ยนมาเป็น Swing ทันที
- กรณีขาลง มีการ Rebound แล้วทำสัญญาณขายอีกครั้ง ต้องดูว่าจุด Low ก่อน Rebound นั้น ราคาจะหยุดการลงไหม ถ้าหยุดก็ให้ปิด S แล้วเปลี่ยนเป็นกลยุทธ์ Swing
- Swing Trade ในที่นี้คือ การซื้อเมื่อมีสัญญาณกลับตัว ของดาวหรือของ Candle การขายคือขายเมื่อมีอาการ ตรงแนวต้าน แนว Fibo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น